วิเคราะห์ต้นตอปัญหาเสียงกระตุก เสียงหาย ระหว่างสนทนา พร้อมวิธีตรวจและแก้แบบช่างโทรศัพท์สำนักงาน
① 🔍 บทนำ: เสียงขาดคือสัญญาณเตือนจาก Network
อาการ “เสียงขาด ๆ” มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็น:
- โทรศัพท์เสีย
- IP PBX มีปัญหา
- คู่สาย/อินเทอร์เน็ตไม่ดี
ความจริงคือ Network ภายใน เป็นต้นเหตุหลักในหลายกรณี
ถ้าไม่แก้ตรงจุด เสียงจะกลับมาขาดซ้ำเสมอ
② 🔍 ลักษณะอาการเสียงขาดที่พบบ่อย
- เสียงหายเป็นช่วง ๆ ทุก 5–10 วินาที
- ได้ยินเสียงอีกฝั่ง แต่เราเงียบ
- เสียงหายเฉพาะช่วงพีค
- เสียงขาดเฉพาะบางเครื่อง/บางจุด
อาการเหล่านี้บอกได้ว่า “Network ไม่เสถียรสำหรับ Voice”
③ 🌐 Network แบบที่ทำให้เสียงขาดมากที่สุด
ประเภทที่พบบ่อย:
- Network ไม่มี QoS
- ใช้ Switch Unmanaged
- Voice แชร์เส้นกับ Data หนัก
- Wi-Fi คุณภาพต่ำ
- Network ที่มี Latency/Jitter แกว่ง
④ 🌐 Latency สูง ทำให้เสียงหายอย่างไร
Latency คือเวลาที่แพ็กเก็ตเดินทาง
ถ้า Latency สูง:
- เสียงมาช้า
- ระบบตัดเสียงบางช่วง
- ผู้ฟังรู้สึกเหมือนเสียง “ขาด”
ค่าแนะนำ:
⑤ 🌐 Jitter คือศัตรูตัวจริงของเสียง
Jitter = ความไม่สม่ำเสมอของแพ็กเก็ต
แม้ Latency ต่ำ แต่ Jitter สูง:
- เสียงจะกระตุก
- ขาดเป็นช่วงสั้น ๆ
Voice ต้องการ “ความนิ่ง” มากกว่าความเร็ว
⑥ 🌐 Packet Loss ทำให้เสียงหายทันที
Packet Loss เกิดจาก:
- Network แออัด
- Switch/Router รับไม่ไหว
- Wi-Fi สัญญาณตก
แค่ Packet Loss 1–2%
เสียงจะเริ่มขาดทันที
⑦ 🌐 Network ไม่มี QoS = เสียงโดนเหยียบ
เมื่อไม่มี QoS:
- Backup
- Upload
- Cloud Sync
จะใช้ Bandwidth เต็มเส้น
Voice ถูกดันไปต่อท้าย → เสียงขาดแน่นอน
⑧ 🌐 ใช้ Switch ราคาถูก/Unmanaged
Switch แบบไม่มี QoS:
- แยก Voice ไม่ได้
- คุม Traffic ไม่ได้
เหมาะกับ Data
แต่ ไม่เหมาะกับ IP PBX
⑨ 🌐 ไม่แยก VLAN ระหว่าง Voice กับ Data
ผลเสีย:
- Broadcast รบกวน Voice
- QoS ทำงานยาก
- ตรวจปัญหายาก
Voice VLAN ช่วยให้เสียงนิ่งขึ้นทันที
⑩ 🌐 Wi-Fi คือแหล่งปัญหาเสียงขาดอันดับต้น ๆ
Wi-Fi:
- สัญญาณแกว่ง
- มี Interference
- QoS คุมยาก
ถ้าใช้ Wi-Fi กับ IP Phone:
- เสียงขาดเป็นช่วง
- หลุดบ่อย
⑪ 🌐 VPN ทำให้เสียงขาดโดยไม่รู้ตัว
VPN เพิ่ม:
ถ้าใช้ Softphone ผ่าน VPN:
- เสียงจะขาดง่ายมาก
โดยเฉพาะช่วง Network พีค
⑫ 🌐 Network แออัดช่วงเวลาเดียวกันทุกวัน
สังเกต:
- เสียงขาดช่วง 9–10 โมง
- เสียงขาดช่วงบ่าย
แปลว่า:
Network Peak Hour ชนกับ Voice
⑬ 🖥️ PoE ไม่เสถียรทำให้เสียงขาดได้
PoE ที่ไฟตก:
- IP Phone รีสตาร์ท
- เสียงหายเป็นช่วง
- สายหลุดโดยไม่รู้ตัว
PoE = ส่วนหนึ่งของ Network Voice
⑭ 🛠️ วิธีพิสูจน์ว่าเสียงขาดเพราะ Network
ช่างมืออาชีพจะ:
- วัด Latency / Jitter / Packet Loss
- Test Call พร้อมโหลด Network
- แยก Test Voice VLAN
- ฟัง Log ไม่ใช่แค่ฟังเสียง
⑮ 🛠️ ตรวจด้วยวิธีง่ายก่อน (Quick Check)
ลอง:
- โทรช่วง Network ว่าง → เสียงดีไหม
- ปิด Upload/Backup → เสียงดีขึ้นไหม
- ต่อสาย LAN แทน Wi-Fi → เสียงหายไหม
ถ้าดีขึ้น = Network แน่นอน
⑯ 🛠️ แนวทางแก้ระยะสั้น
- เปิด QoS ให้ Voice
- จำกัด Bandwidth งานหนัก
- ย้าย IP Phone ออกจาก Wi-Fi
- ลด Codec ชั่วคราว
⑰ 🛠️ แนวทางแก้ระยะยาว
- ใช้ Managed Switch
- แยก Voice VLAN
- ออกแบบ QoS End-to-End
- เผื่อ Bandwidth ช่วง Peak
⑱ 🛠️ ออกแบบ Network ใหม่เมื่อใด
ควรออกแบบใหม่เมื่อ:
- เสียงขาดบ่อย
- ผู้ใช้เพิ่ม
- เพิ่ม Call Center
- ใช้ Softphone มากขึ้น
⑲ 📋 Checklist แก้เสียงขาดจาก Network
- QoS เปิดแล้ว
- VLAN แยกแล้ว
- Switch รองรับ Voice
- วัด Jitter ได้
- ลด Wi-Fi สำหรับ Voice
⑳ 📋 Checklist สำหรับผู้บริหาร
ถามทีม IT ว่า:
- เสียงขาดเพราะอะไร
- มีตัวเลขยืนยันหรือไม่
- Network รองรับการโตไหม
㉑ ⚠️ ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย
- เน็ตแรง = เสียงไม่ขาด
- เปลี่ยน IP PBX แล้วจะหาย
- โทษอินเทอร์เน็ตอย่างเดียว
㉒ 🧠 บทเรียนจากหน้างานจริง
หลายเคส:
เสียงขาดมานาน
แก้จบใน 30 นาที
แค่ “เปิด QoS ให้ถูกจุด”
㉓ 🛠️ เมื่อไหร่ควรเรียกผู้เชี่ยวชาญ
- แก้เองหลายรอบไม่หาย
- ไม่มีเครื่องมือวัด
- ระบบเริ่มใหญ่ขึ้น
㉔ 📌 สรุปสำหรับองค์กร
เสียงขาดใน IP PBX:
- ไม่ใช่เรื่องเล็ก
- คือสัญญาณว่า Network ไม่พร้อมสำหรับ Voice
㉕ ✅ บทสรุป
ถ้า IP PBX เสียงขาด ๆ
อย่าเริ่มจากการเปลี่ยนอุปกรณ์
แต่ให้เริ่มจาก
วิเคราะห์ Network อย่างเป็นระบบ
㉖ 💬 คำถามชวนคิดและชวนคอมเมนต์
เสียงโทรศัพท์ในองค์กรคุณ
ขาดเฉพาะช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งหรือไม่?