AX3000

AX5400 รุ่นไหนเหมาะกับบ้าน 2–3 ชั้น — เลือกให้แรงจริง ไม่หลงสเปก ปี 2026

SECTION A – Core Information

1️⃣ 🔥 บทนำ (Hook)

บ้าน 2–3 ชั้นคือ “สนามสอบตก” ของเราเตอร์จำนวนมาก
เพราะต่อให้กล่องเขียนว่าแรงแค่ไหน แต่พอขึ้นชั้นบน สัญญาณตก ความเร็วหาย Ping แกว่ง ทุกอย่างพังพร้อมกัน

หลายคนเปลี่ยนจาก AX3000 มา AX5400 แล้วถามว่า

“ทำไมยังไม่แรงทั้งบ้าน?”

คำตอบคือ
AX5400 ไม่ได้แรงเท่ากันทุกตัว และไม่ใช่ทุกตัวจะเหมาะกับบ้านหลายชั้น

บทความนี้จะพาคุณแยกให้ชัดว่า

  • AX5400 แบบไหน “เอาอยู่จริง” สำหรับบ้าน 2–3 ชั้น
  • แบบไหนแรงแค่ใกล้ตัว
  • ควรใช้เดี่ยว หรือควรทำ Mesh
  • ต้องดูอะไรนอกจากตัวเลข AX5400
  • เลือกผิด = จ่ายแพงแต่ยังต้องซื้อ Mesh เพิ่ม

นี่คือคู่มือ เลือก AX5400 สำหรับบ้านหลายชั้น แบบไม่หลงการตลาด


2️⃣ 📌 เหมาะสำหรับใคร

บทความนี้เหมาะกับ:

  • บ้านเดี่ยว 2–3 ชั้น / ทาวน์โฮมสูง
  • ผนังคอนกรีตหลายชั้น บันไดกลางบ้าน
  • ใช้เน็ต 500Mbps – 1Gbps
  • มีอุปกรณ์ 25–50 เครื่อง
  • ใช้ Mesh หรือกำลังจะขยาย Mesh
  • มี Smart TV, กล้อง, Work From Home
  • ไม่อยากเปลี่ยน Router บ่อย ใช้ยาว 5–7 ปี

ถ้าบ้านคุณมี “ชั้น” มากกว่าหนึ่ง
AX5400 คือระดับที่ควรเริ่มพิจารณาอย่างจริงจัง


3️⃣ 🔎 AX5400 คืออะไร (มองให้ลึกกว่าเลขบนกล่อง)

AX5400 คือ Router Wi-Fi 6 (802.11ax) กลุ่มที่มีเพดานรวม ~5400 Mbps

โครงสร้างมาตรฐานคือ:

  • 2.4GHz ≈ 574 Mbps
  • 5GHz ≈ 4804 Mbps

จุดต่างจาก AX3000 ไม่ใช่แค่เลข
แต่คือ โครงสร้าง 4×4 Stream + 160MHz ที่ใช้งานได้จริง

สิ่งที่ AX5400 ควรให้คุณ:

  • สัญญาณ 5GHz ที่ทะลุชั้นได้ดีกว่า
  • ความเร็วปลายทางนิ่งกว่า
  • รองรับอุปกรณ์พร้อมกันจำนวนมาก
  • ทำ Mesh หลาย Node ได้ไม่ตัน

4️⃣ 🗺️ ทำไมบ้าน 2–3 ชั้น “โหด” สำหรับ Wi-Fi

บ้านหลายชั้นมีศัตรูของ Wi-Fi ชัดเจน:

  • ผนังคอนกรีต + พื้นปูน = กินสัญญาณหนัก
  • แนวตั้ง (ขึ้น–ลงชั้น) แย่กว่าแนวนอน
  • ตำแหน่ง Router มักอยู่ชั้นล่าง
  • อุปกรณ์ชั้นบนใช้ 5GHz ไม่ถึง

AX5400 ที่เหมาะกับบ้านหลายชั้น
ต้อง ส่งสัญญาณคุณภาพสูง ไม่ใช่แค่แรงใกล้ตัว


5️⃣ 📈 ทำไม AX5400 ถึงเหมาะกับบ้าน 2–3 ชั้น

เหตุผลหลักที่ AX5400 เหนือ AX3000 ในบ้านหลายชั้นคือ:

  • 4×4 Stream → ส่งข้อมูลได้พร้อมกันมากกว่า
  • ภาคส่งสัญญาณแรงกว่า
  • CPU/RAM จัดการโหลดได้ดีกว่า
  • Mesh รองรับหลาย Node โดยไม่อั้น
  • Speed drop เมื่อขึ้นชั้นน้อยกว่า

แต่ต้องย้ำว่า

AX5400 ที่ดี ≠ AX5400 ทุกตัว


6️⃣ 🎉 เกณฑ์ “AX5400 เหมาะบ้านหลายชั้น” ที่ใช้ตัดสิน

ผมใช้เกณฑ์เหล่านี้ในการประเมิน:

  1. สัญญาณ 5GHz ทะลุชั้นได้ดีกว่า AX3000 ชัด
  2. รองรับ 160MHz และใช้งานนิ่ง
  3. CPU/RAM ไม่ตันเมื่อมีอุปกรณ์ 30–50 เครื่อง
  4. Mesh Ecosystem เสถียร (2–4 Node)
  5. Firmware จัดการ Roaming ดี
  6. มี LAN Backhaul
  7. ราคาไม่บิดเกินความสามารถ

ถ้าผ่าน 5–6 ข้อขึ้นไป → เหมาะกับบ้าน 2–3 ชั้นจริง


7️⃣ 🧩 สเปก AX5400 ที่ “ต้องมี” สำหรับบ้าน 2–3 ชั้น

ขั้นต่ำที่ควรได้:

  • Wi-Fi 6 AX5400 แท้
  • 5GHz 4×4 + 160MHz
  • CPU Quad-Core
  • RAM ≥ 512MB (แนะนำ 1GB)
  • MU-MIMO + OFDMA
  • รองรับ Mesh + LAN Backhaul
  • WPA3

ถ้า AX5400 ขาด 160MHz หรือ RAM ต่ำ
→ ประสบการณ์จะใกล้ AX3000 มากกว่าที่คิด


8️⃣ ⚙ ประสบการณ์ใช้งานจริงที่ควรได้

ในบ้าน 2–3 ชั้นที่ตั้งค่าถูกต้อง
AX5400 ที่เหมาะควรให้ผลประมาณนี้:

  • ใกล้ Router: 800–950 Mbps
  • ชั้นถัดไป: 500–700 Mbps
  • ชั้นบน (มี Mesh 1 Node): 600+ Mbps
  • หลายเครื่องพร้อมกัน: ยังนิ่ง ไม่กระตุก

ถ้าได้ต่ำกว่านี้มาก
แปลว่า “รุ่นนั้นไม่เหมาะ” หรือวาง/ตั้งค่าผิด


9️⃣ 📊 AX5400 เดี่ยว vs AX5400 + Mesh (บ้านหลายชั้น)

รูปแบบเหมาะกับ
AX5400 เดี่ยวบ้าน 2 ชั้น พื้นที่ไม่กว้าง
AX5400 + Mesh 1 Nodeบ้าน 2 ชั้น/ผนังหนา
AX5400 + Mesh 2 Nodeบ้าน 3 ชั้น
AX5400 + LAN Backhaulบ้านใหญ่ ต้องการความนิ่งสูง

บ้าน 3 ชั้นขึ้นไป
แทบทุกกรณีควรคิดถึง Mesh ตั้งแต่แรก


🔟 🧠 สรุปก่อนเข้าสู่การคัดรุ่นจริง

ก่อนจะไปดูว่า รุ่นไหนเหมาะจริง
ขอสรุปให้ชัด:

  • AX5400 ไม่ได้เหมาะกับบ้านหลายชั้นทุกตัว
  • ต้องดูสเปกภายใน + Mesh Ecosystem
  • รุ่นที่ดี จะทำให้บ้าน 2–3 ชั้น “ลื่นทั้งหลัง”
  • รุ่นที่ไม่เหมาะ จะยังมีจุดอับ แม้จะเป็น AX5400

1️⃣1️⃣ 💡 ฟีเจอร์ที่ “ต่างจริง” สำหรับบ้านหลายชั้น

AX5400 ที่เอาอยู่บ้าน 2–3 ชั้น ต้องมีฟีเจอร์เหล่านี้ครบ:

  • 160MHz ใช้งานนิ่ง (ไม่หลุดเมื่อเปิดจริง)
  • 4×4 Stream (5GHz) เพื่อความนิ่งเมื่อไกล
  • Fast Roaming (802.11k/v/r) เดินขึ้นลงชั้นไม่สะดุด
  • Mesh Ecosystem เสถียร (เพิ่ม Node แล้วไม่ดรอป)
  • QoS ใช้งานได้จริง แยกงานสตรีม/ประชุม/เกม
  • LAN Backhaul สำหรับชั้นบน (ถ้าเดินสายได้)

บ้านหลายชั้น “แพ้ทาง” เราเตอร์ที่แรงเฉพาะใกล้ตัว


1️⃣2️⃣ 🧪 Performance เชิงเทคนิค (โหลดพร้อมกันจริง)

ฉากทดสอบมาตรฐาน

  • บ้าน 2–3 ชั้น / ผนังคอนกรีต
  • เน็ต 1Gbps
  • อุปกรณ์พร้อมกัน 30–45 เครื่อง
  • งาน: Netflix 4K 3 จอ + ประชุม + กล้อง + สำรองไฟล์

ผลลัพธ์ที่ควรได้

  • AX5400 ที่เหมาะ: ความเร็ว “คงที่” มากกว่าสูงสุด
  • AX5400 ที่ไม่เหมาะ: ใกล้แรง แต่ชั้นบนแกว่ง

บทสรุป:
บ้านหลายชั้นให้ความสำคัญกับ ความนิ่ง (Stability) มากกว่า สปีดพีก


1️⃣3️⃣ 🔥 สถานการณ์ที่ “ควรใช้ AX5400 เดี่ยว”

AX5400 เดี่ยว เพียงพอ เมื่อ:

  • บ้าน 2 ชั้น พื้นที่ไม่กว้าง
  • ตำแหน่งวางอยู่กึ่งกลางบ้าน
  • ผนังไม่หนามาก
  • อุปกรณ์ 20–30 เครื่อง
  • ไม่ต้องการลากสายเพิ่ม

ข้อดี

  • งบต่ำกว่า
  • ตั้งค่าง่าย
  • ดูแลง่าย

ข้อจำกัด

  • บ้าน 3 ชั้นมักยังมีจุดอับ

1️⃣4️⃣ 🏠 สถานการณ์ที่ “ต้องใช้ AX5400 + Mesh”

ควรทำ Mesh ตั้งแต่ต้น เมื่อ:

  • บ้าน 3 ชั้น หรือพื้นที่ยาว
  • ผนังหนา/บันไดกลางบ้าน
  • อุปกรณ์ 30–50 เครื่อง
  • มี Smart TV/กล้องหลายจุด
  • ต้องการเดินบ้านไม่หลุด

โครงสร้างแนะนำ

  • บ้าน 2 ชั้น: AX5400 + Mesh 1 Node
  • บ้าน 3 ชั้น: AX5400 + Mesh 2 Node
  • ถ้าเดินสายได้: LAN Backhaul จะนิ่งที่สุด

1️⃣5️⃣ 🎮 Gaming / Streaming / Workload (บ้านหลายชั้น)

Gaming

  • AX5400 เหนือกว่า AX3000 ที่จุดไกล
  • Ping นิ่งกว่าเมื่อมีโหลดร่วม

Streaming

  • 4K หลายจอพร้อมกัน → AX5400 ยังเอาอยู่
  • Mesh ช่วยลด Buffer ที่ชั้นบน

Workload/NAS

  • โอนไฟล์ข้ามชั้น → AX5400 + Mesh เห็นผลชัด
  • ถ้ามี 2.5G LAN (บางรุ่น) จะได้กำไรเพิ่ม

SECTION B – Practical Guide

1️⃣6️⃣ 🧂 อุปกรณ์/สภาพแวดล้อมที่ทำให้ AX5400 “เห็นผล”

เพื่อให้ AX5400 โชว์ศักยภาพ:

  • อุปกรณ์ปลายทาง Wi-Fi 6
  • เปิด 160MHz
  • วาง Node ระยะ 7–12 เมตร
  • ใช้ LAN Backhaul เมื่อทำได้
  • แยก SSID IoT ลดภาระ

1️⃣7️⃣ 👷 วิธีติดตั้งสำหรับบ้าน 2–3 ชั้น (โครงสร้างที่แนะนำ)

บ้าน 2 ชั้น

  • วาง Router ชั้นล่างกึ่งกลาง
  • ถ้าอับ → เพิ่ม Node ชั้นบน

บ้าน 3 ชั้น

  • Router ชั้นกลาง
  • Node ชั้นบน + ชั้นล่าง
  • ถ้าเดินสาย → LAN Backhaul ทุก Node

1️⃣8️⃣ 🔧 ปรับแต่งขั้นสูงให้ “นิ่งทั้งหลัง”

  • เลือก Channel 36–48 หรือ DFS (พื้นที่หนาแน่น)
  • เปิด Fast Roaming
  • เปิด OFDMA / MU-MIMO
  • ตั้ง QoS ให้ Video/Meeting Priority
  • จำกัด Bandwidth อุปกรณ์กินเน็ต

1️⃣9️⃣ 🔥 จุดที่ควรระวัง/รุ่นที่ “ไม่เหมาะ” บ้านหลายชั้น

สัญญาณเตือน:

  • 160MHz เปิดแล้วหลุด
  • RAM ต่ำ (≤512MB) ในบ้านอุปกรณ์เยอะ
  • Mesh เพิ่มแล้วสปีดดรอป
  • Firmware ไม่อัป/บั๊กเยอะ
  • ราคาชนรุ่น Pro แต่ประสบการณ์ไม่ต่าง

บ้านหลายชั้น ไม่เหมาะกับ AX5400 ที่ “แรงเฉพาะใกล้”


2️⃣0️⃣ 🪛 สรุปก่อนเลือก “รุ่นที่ใช่”

  • บ้าน 2 ชั้น → AX5400 เดี่ยว หรือ + Mesh 1 Node
  • บ้าน 3 ชั้น → AX5400 + Mesh 2 Node (แนะนำ)
  • ให้ความสำคัญ นิ่ง > พีก
  • Mesh Ecosystem สำคัญพอ ๆ กับตัวเครื่อง

SECTION C – Deep Knowledge & SEO Close

2️⃣1️⃣ 🎯 เลือก AX5400 ตามงบประมาณ (บ้าน 2–3 ชั้น)

งบประมาณแนวทางเลือกเหมาะกับใคร
5,000–6,500฿AX5400 เดี่ยวบ้าน 2 ชั้น พื้นที่ไม่กว้าง
6,500–9,000฿AX5400 + Mesh 1 Nodeบ้าน 2 ชั้น/ผนังหนา
9,000–13,000฿AX5400 + Mesh 2 Nodeบ้าน 3 ชั้น
13,000฿+AX5400 Pro + LAN Backhaulบ้านใหญ่/โหลดหนัก

กฎทอง:
บ้าน 3 ชั้นขึ้นไป → คิด Mesh ตั้งแต่แรก จะคุ้มกว่าแก้ทีหลัง


2️⃣2️⃣ 🧠 เลือกให้เหมาะกับสภาพบ้านจริง

  • บ้าน 2 ชั้น (พื้นที่ไม่กว้าง): AX5400 เดี่ยวอาจพอ
  • บ้าน 2 ชั้น ผนังหนา: AX5400 + Mesh 1 Node
  • บ้าน 3 ชั้น: AX5400 + Mesh 2 Node (แนะนำ)
  • บันไดกลางบ้าน: วาง Node ใกล้โถงบันได
  • พื้นที่ยาว: เพิ่ม Node ระยะ 7–12 ม.

2️⃣3️⃣ 🚀 อัปเกรด/ขยายในอนาคต

AX5400 ที่เหมาะบ้านหลายชั้นควร:

  • รองรับ Mesh Ecosystem เดียวกัน
  • เพิ่ม Node แล้วไม่ดรอป
  • รองรับ LAN Backhaul
  • Firmware อัปเดตสม่ำเสมอ

ถ้าคิดจะขยายแน่ ๆ → อย่าเลือกรุ่นที่ “ทำ Mesh ได้แค่ชื่อ”


2️⃣4️⃣ 🧱 การวางอุปกรณ์ให้ได้ผลสูงสุด

  • วาง Router ชั้นกลาง (ถ้าเป็นบ้าน 3 ชั้น)
  • Node วางสูง ~1–1.5 ม.
  • หลีกเลี่ยงมุมอับ/ตู้/ทีวี
  • ใช้ LAN Backhaul เมื่อเดินสายได้
  • เปิด 160MHz และ Fast Roaming

การวางที่ดี ทำให้ AX5400 “แรงขึ้นทั้งหลัง” โดยไม่ต้องเพิ่มงบ


2️⃣5️⃣ 🔐 Security / ความปลอดภัย

  • เปิด WPA3
  • ปิด WPS
  • แยก Guest / IoT
  • อัป Firmware
  • ตั้งรหัสแข็งแรงและเปลี่ยนเป็นระยะ

2️⃣6️⃣ 🧊 อายุการใช้งาน/ความร้อน

  • AX5400 ภาคส่งแรงกว่า → วางโล่ง ระบายอากาศดี
  • ทำความสะอาดฝุ่นทุก 1–2 เดือน
  • ใช้ปลั๊กกันไฟกระชาก/UPS (ถ้ามี NAS)

ดูแลดี ใช้ได้ 5–7 ปี


2️⃣7️⃣ 💰 ค่าใช้จ่ายรวม (TCO) บ้าน 2–3 ชั้น

รายการค่าเฉลี่ย
Router AX54005,500–9,000฿
Mesh Node เพิ่ม2,000–4,000฿/จุด
สาย LAN Cat625–50฿/เมตร

คิดทั้งระบบตั้งแต่แรก = ประหยัดกว่าซื้อแก้หลายรอบ


2️⃣8️⃣ 🔍 Checklist ก่อนตัดสินใจ

[ ] บ้านกี่ชั้น?
[ ] ผนังหนาแค่ไหน?
[ ] อุปกรณ์พร้อมกันกี่เครื่อง?
[ ] ต้องการเดินบ้านไม่หลุดไหม?
[ ] จะทำ Mesh กี่ Node?
[ ] เดินสาย LAN ได้หรือไม่?

✔ บ้าน 2 ชั้น → เดี่ยว/ Mesh 1 Node
✔ บ้าน 3 ชั้น → Mesh 2 Node ขึ้นไป


2️⃣9️⃣ 📚 เกร็ดความรู้

  • บ้านหลายชั้นแพ้ทาง “แรงเฉพาะใกล้”
  • ความนิ่ง สำคัญกว่าความเร็วพีก
  • Mesh ที่ดี > Router เดี่ยวแรง ๆ
  • LAN Backhaul = ตัวคูณความนิ่ง

3️⃣0️⃣ ❓ FAQ

Q: AX5400 เดี่ยวพอสำหรับบ้าน 3 ชั้นไหม?
A: ส่วนใหญ่ไม่พอ แนะนำทำ Mesh

Q: ทำไมบางบ้านใช้ AX5400 แล้วชั้นบนยังช้า?
A: วางตำแหน่งไม่เหมาะ/ไม่ทำ Mesh/ไม่เปิด 160MHz

Q: Mesh Wi-Fi จำเป็นไหม?
A: สำหรับบ้าน 3 ชั้น → จำเป็นมาก


3️⃣1️⃣ 🧠 Expert Tips

  • บ้าน 3 ชั้น → วาง Router ชั้นกลางดีที่สุด
  • ใช้ Mesh → เลือก Ecosystem เดียวกัน
  • เปิด Fast Roaming เดินบ้านลื่น
  • ถ้ามี NAS → พิจารณา 2.5G LAN

3️⃣2️⃣ 🗂 Scenario Guide

สถานการณ์แนะนำ
บ้าน 2 ชั้น พื้นที่เล็กAX5400 เดี่ยว
บ้าน 2 ชั้น ผนังหนาAX5400 + Mesh 1
บ้าน 3 ชั้นAX5400 + Mesh 2
บ้านใหญ่/อุปกรณ์เยอะAX5400 Pro + LAN
ต้องการใช้ยาวAX5400 + Mesh

3️⃣3️⃣ 💬 คำถามชวนคอมเมนต์

บ้านคุณมีกี่ชั้น และจุดอับอยู่ตรงไหน?
ตอนนี้ใช้ Router เดี่ยวหรือ Mesh แล้วเป็นอย่างไรบ้าง?