Contact
Line : comsiam
Contact
Line : comsiam

ความจริงที่ช่าง IT เจอทุกวัน แต่เว็บส่วนใหญ่ไม่กล้าบอก
ถ้าคอมคุณเริ่มช้า ค้าง เด้ง หรือมี Error แปลก ๆ
สิ่งแรกที่คนส่วนใหญ่ทำคือ โหลดโปรแกรมแก้คอมอัตโนมัติ
เพราะมันดูง่าย เร็ว และเหมือนจะจบปัญหาในคลิกเดียว
แต่จากประสบการณ์ทำงานจริง
ปัญหาคอมจำนวนมาก “แย่ลง” หลังใช้โปรแกรมพวกนี้
และเจ้าของเครื่องมักไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเริ่มพังตรงไหน
บทความนี้จะพูดตรง
ไม่ห้ามใช้ทุกกรณี
แต่จะบอกว่า เมื่อไหร่ควรใช้ และเมื่อไหร่ควรหยุด
พูดกันตรง ๆ โปรแกรมพวกนี้คือ:
มัน ไม่ได้รู้จักเครื่องคุณ
มันรู้แค่ว่า “เครื่องส่วนใหญ่ควรเป็นแบบนี้”
และนี่คือจุดเริ่มปัญหา
หลายคนคิดว่า:
ความจริงคือไม่ใช่แบบนั้น
จากเคสที่เจอจริง:
โปรแกรมแก้คอมอัตโนมัติ มองสิ่งเหล่านี้เป็น “ความผิดปกติ”
ทั้งที่จริง ๆ มันคือ “การตั้งใจใช้งาน”
ต้องยอมรับว่า มันไม่ได้ไร้ประโยชน์ทั้งหมด
มันช่วยได้ในกรณี:
แต่…
นี่คือส่วนน้อยของปัญหาคอมทั้งหมด
และนี่คือสิ่งที่หลายเว็บไม่พูด
ที่สำคัญคือ
มันไม่อธิบายให้คุณเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
คุณแค่เห็นคำว่า “Fixed”
แต่ไม่รู้ว่าแก้อะไรไปบ้าง
นี่คือส่วนที่ผมอยากให้หยุดอ่านแล้วจำไว้
เพราะถ้ามีปัญหาตามมา
คุณจะไม่รู้เลยว่า “พังจากจุดไหน”
หลายคนคิดว่า:
ตัวนี้ไม่หาย ลองอีกตัว
ผลลัพธ์ที่เจอคือ:
คำว่า:
ส่วนใหญ่คือ การตลาด ไม่ใช่การวินิจฉัย
ถ้าเป็นเครื่องลูกค้า
ผมจะคิดแบบนี้ก่อนเสมอ
1️⃣ อาการคืออะไร (ช้า / ค้าง / Error / เด้ง)
2️⃣ เกิดหลังทำอะไร (อัปเดต / ลงโปรแกรม / เปลี่ยนอุปกรณ์)
3️⃣ เป็นตลอดหรือเป็นบางครั้ง
ถ้ายังตอบ 3 ข้อนี้ไม่ได้
ยังไม่ควรใช้โปรแกรมแก้คอมอัตโนมัติ
เพราะคุณกำลัง “แก้ก่อนรู้ปัญหา”
ถ้าเครื่องคุณมีอาการเหล่านี้
ผมแนะนำให้ หยุดทันที
จุดนี้แก้ต่อเอง
มีโอกาสเสียเวลามากกว่าเดิมหลายเท่า
พูดตรง ๆ ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า คือ:
ถ้าคุณยังไม่คุ้นกับขั้นตอนพวกนี้
การหยุดแล้วหาความรู้ต่อ ดีกว่าลองมั่ว
โปรแกรมแก้คอมอัตโนมัติ:
มันเป็น “เครื่องมือ”
ไม่ใช่ “คำตอบ”
การแก้ปัญหาคอมที่ดี
เริ่มจาก เข้าใจอาการ ไม่ใช่กดสแกน
ถ้าเครื่องนี้เป็นของลูกค้า
คุณจะกด Fix ก่อน
หรือจะถามอาการให้ชัดก่อน?