Contact
Line : comsiam
Contact
Line : comsiam

โรงงานพึ่งพาระบบอัตโนมัติ เครื่องจักร เซนเซอร์ และระบบควบคุมจำนวนมาก การหยุดของเครือข่ายแม้เพียงช่วงสั้น ๆ อาจทำให้สายการผลิตหยุด ต้นทุนเพิ่ม และเกิดความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ระบบแลนในโรงงานจึงต้องออกแบบให้ ทนทาน เสถียร และทำงานต่อเนื่อง มากกว่าระบบแลนทั่วไป
ก่อนจะลงรายละเอียดเชิงอุตสาหกรรม จำเป็นต้องเข้าใจพื้นฐานก่อนว่า ระบบแลนคืออะไร และเหตุใดโครงสร้างเครือข่ายจึงเป็นหัวใจของการเชื่อมต่อเครื่องจักร ระบบควบคุม และข้อมูลการผลิตทั้งหมดในโรงงาน
Industrial LAN คือเครือข่ายภายในที่ออกแบบมาเพื่อสภาพแวดล้อมอุตสาหกรรม รองรับการเชื่อมต่อเครื่องจักร (PLC, HMI), ระบบ SCADA, เซนเซอร์ และอุปกรณ์ควบคุม โดยต้องทนต่อความร้อน ฝุ่น การสั่นสะเทือน และสัญญาณรบกวนไฟฟ้า

แม้โครงสร้างคล้ายกัน แต่ Industrial LAN ให้ความสำคัญกับ Real-time, Deterministic, และ Uptime มากกว่า ในขณะที่ Enterprise LAN โฟกัสปริมาณผู้ใช้และข้อมูลธุรกิจ
ประกอบด้วย Industrial Switch, Router, Firewall, สายอุตสาหกรรม, Fiber และอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า (Surge/EMI)
ได้แก่ PLC, Robot Controller, Sensor, Camera อุตสาหกรรม และ Gateway ที่ต้องสื่อสารตลอดเวลาอย่างแม่นยำ
Industrial Switch ออกแบบให้ทนสภาพแวดล้อมรุนแรง รองรับอุณหภูมิสูง มี MTBF สูง และมักรองรับ Redundant Power
การใช้ Ring/ERPS/HSR ช่วยให้เครือข่ายยังทำงานได้แม้สายหรืออุปกรณ์บางจุดล้มเหลว
นิยมใช้สายเกรดอุตสาหกรรมหรือ Fiber เพื่อลด EMI และรองรับระยะไกลในโรงงานขนาดใหญ่
แบ่งเครือข่ายตามสายการผลิต (Cell/Area) ลดผลกระทบเป็นวงจำกัดเมื่อเกิดปัญหา
แยกเครือข่ายธุรกิจ (IT) ออกจากเครือข่ายควบคุม (OT) เพื่อความปลอดภัยและเสถียรภาพ
LAN แบบใช้สายยังเป็นหลัก ส่วนไร้สายใช้เฉพาะจุดที่เคลื่อนที่หรือเดินสายยาก
งานควบคุมต้อง Latency ต่ำและคงที่ ความเร็วเลือกตามปริมาณข้อมูลและระยะทาง
EMI, สายเสื่อม, อุปกรณ์ไม่ทนสภาพแวดล้อม และ Single Point of Failure
อุปกรณ์ไม่ตรงสเปกอุตสาหกรรม และการออกแบบไม่เผื่อ Redundancy
เริ่มจาก Process Flow, Safety Requirement และ Availability ไม่ใช่ราคาอุปกรณ์
ต้องคำนึงถึงความร้อน ฝุ่น การสั่น และการเข้าถึงเพื่อบำรุงรักษา
ใช้ Firewall อุตสาหกรรม, Segmentation, Whitelisting และ Monitoring
ต้องรองรับโปรโตคอลอุตสาหกรรม (เช่น Modbus, Profinet, EtherNet/IP)
ใช้ Bandwidth สูงและต้องการความเสถียรต่อเนื่อง
ประมวลผลใกล้หน้างาน ลด Latency และพึ่งพา WAN น้อยลง
ตรวจสอบสาย พอร์ต อุณหภูมิ และ Log อย่างสม่ำเสมอ
ใช้ระบบมอนิเตอร์แบบ Real-time เพื่อลด Downtime
ต้นทุนสูงกว่า LAN ทั่วไป แต่ลดความเสี่ยงหยุดการผลิตในระยะยาว
ควรมีทีม OT/IT ทำงานร่วมกันและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
กำหนด Uptime, Safety, Redundancy, และแผนขยายล่วงหน้า
รองรับการเก็บข้อมูลจำนวนมากเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพ
TSN, Private 5G และ Automation จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
ลดต้นทุนผิดจุด ไม่แยก IT/OT และไม่ทดสอบภาคสนาม
เครือข่ายที่ดีช่วยรักษาความปลอดภัยคน เครื่องจักร และข้อมูลการผลิต
Industrial LAN ต้อง ทนทาน เสถียร และออกแบบเพื่อไม่หยุดงาน หากวางโครงสร้างถูกต้อง โรงงานจะพร้อมสู่ระบบอัตโนมัติและการแข่งขันระยะยาว