Wi-Fi 6

Wi-Fi 6 คืออะไร ต่างจาก Wi-Fi 5 อย่างไร? คู่มืออัปเกรดเน็ตบ้านปี 2026


1️⃣ 🔥 บทนำ (Hook ดึงความสนใจ)

หลายบ้านตอนนี้ติดเน็ตไฟเบอร์ 500–1000 Mbps แล้ว แต่ยังใช้เราเตอร์เก่า Wi-Fi 5 (802.11ac) เลยรู้สึกว่า “เน็ตบนกล่องเร็ว แต่เล่นจริงไม่เร็วเท่าไหร่” โดยเฉพาะเวลามีคนใช้หลายเครื่องพร้อมกัน ทั้งมือถือ ทีวี แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก กล้องวงจรปิด และอุปกรณ์ IoT ต่าง ๆ

คำถามคือ Wi-Fi 6 (802.11ax) ที่ผู้ให้บริการและร้านไอทีชอบแนะนำ มันต่างจาก Wi-Fi 5 แค่ไหน? คุ้มไหมที่จะอัปเกรดในปี 2026? บทความนี้ของ ComSiam จะพาไล่ทีละประเด็นแบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นสายไอทีก็เลือกได้เอง


2️⃣ 🎯 ภาพรวมสั้น ๆ สำหรับคนไม่มีเวลาอ่าน (TL;DR)

  • ถ้าบ้านมีอุปกรณ์ต่อ Wi-Fi เกิน 5–10 ชิ้น → Wi-Fi 6 เหนือกว่าอย่างชัดเจน
  • Wi-Fi 6 เน้น จัดการหลายอุปกรณ์พร้อมกัน, ลดอาการเน็ตหน่วงเวลาใช้งานเยอะ ๆ
  • ความเร็วสูงสุด “บนทฤษฎี” สูงกว่า Wi-Fi 5 หลายเท่า แต่ในชีวิตจริงจะขึ้นกับ
    • แพ็กเกจเน็ต
    • คุณภาพเราเตอร์
    • การวางตำแหน่ง
  • ถ้ากำลังซื้อเราเตอร์ใหม่ในปี 2026 → แนะนำข้าม Wi-Fi 5 ไป Wi-Fi 6 เลย

3️⃣ 📡 Wi-Fi 6 คืออะไร? (นิยาม)

Wi-Fi 6 คือชื่อเรียกง่าย ๆ ของมาตรฐาน IEEE 802.11ax
ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหายุคที่ทุกบ้านมีอุปกรณ์ออนไลน์จำนวนมาก

จุดเด่นหลักคือ

  • รองรับความเร็วรวมสูงสุดได้ถึงระดับ หลายกิกะบิตต่อวินาที (ขึ้นกับรุ่นเราเตอร์)
  • ใช้เทคนิคใหม่ ๆ อย่าง OFDMA + MU-MIMO เพื่อจัดสรรช่องสัญญาณให้หลายอุปกรณ์แชร์กันได้ดีขึ้น
  • ช่วยลด Latency (ความหน่วง) และทำให้เน็ต “นิ่ง” ขึ้นเวลาคนใช้เยอะ

4️⃣ 📡 Wi-Fi 5 คืออะไร? (ทบทวนมาตรฐานเก่า)

Wi-Fi 5 คือชื่อของมาตรฐาน 802.11ac ที่เคยเป็นพระเอกในยุคเน็ตบ้าน 50–200 Mbps

  • ใช้คลื่น 5GHz เป็นหลัก (เร็วแต่ระยะสั้น)
  • มีเทคโนโลยี MU-MIMO แต่ยังจัดการอุปกรณ์พร้อมกันได้ไม่ดีเท่า Wi-Fi 6
  • ในบ้านที่มีอุปกรณ์ไม่มาก ยังถือว่าเพียงพอ แต่เริ่ม “ไม่ทันยุค” สำหรับบ้านที่เน็ตแรง + อุปกรณ์เยอะ

5️⃣ ⚙️ ตารางเปรียบเทียบสเปกหลัก Wi-Fi 6 vs Wi-Fi 5

คุณสมบัติหลักWi-Fi 5 (802.11ac)Wi-Fi 6 (802.11ax)
ความเร็วรวมสูงสุด*~3.5 Gbps~9.6 Gbps
การรองรับอุปกรณ์เยอะปานกลางดีมาก
Latency (ความหน่วง)สูงกว่าต่ำกว่า
เทคโนโลยีส่งข้อมูลMU-MIMO (Downlink)MU-MIMO + OFDMA
ความปลอดภัยสูงสุดWPA2WPA3 (รองรับ)
ประหยัดพลังงานอุปกรณ์ปกติดีกว่า (TWT)

*ตัวเลขความเร็วเป็นระดับ “ทฤษฎี” ของมาตรฐาน ไม่ใช่ความเร็วจริงที่ผู้ให้บริการให้


6️⃣ 🧠 ทำไม Wi-Fi 6 ถึงสำคัญในปี 2026

เพราะพฤติกรรมของผู้ใช้เปลี่ยนไปแล้ว:

  • ทุกคนมีมือถืออย่างน้อย 1–2 เครื่อง
  • ทีวีเป็น Smart TV แทบทั้งหมด
  • คนทำงานจากบ้านเพิ่มขึ้น
  • อุปกรณ์ IoT เช่น หลอดไฟ กล้อง IP ปลั๊กอัจฉริยะ ฯลฯ มากขึ้นเรื่อย ๆ

มาตรฐานเก่าอย่าง Wi-Fi 5 ถูกออกแบบมาในยุคที่ “ของออนไลน์พร้อมกันยังไม่เยอะ” จึงเริ่มชนเพดานในหลายบ้าน


7️⃣ 👥 รองรับอุปกรณ์หลายชิ้นพร้อมกันต่างกันอย่างไร

Wi-Fi 5

  • เหมือนถนน 3 เลนที่ให้รถวิ่งเร็ว ๆ แต่พอรถเยอะก็เริ่มติด

Wi-Fi 6

  • เปลี่ยนจาก “ให้แต่ละคันวิ่งทีละช่วง” → เป็นการจัดแบ่งช่องย่อย ๆ ให้รถหลายคันวิ่งพร้อมกันได้ โดยใช้ OFDMA
  • ผลลัพธ์คือ เวลาในบ้านมีคนดู Netflix, เล่นเกม, ประชุมออนไลน์ พร้อมกัน ทุกคนรู้สึกเนียนกว่า

8️⃣ 🚀 ความเร็วจริงที่ผู้ใช้มักจะได้ (ไม่ใช่ตัวเลขบนกล่อง)

หลายคนเข้าใจผิดว่า “ซื้อ Wi-Fi 6 แล้วเน็ตต้องวิ่งเต็ม 1 Gbps ทันที” ซึ่งไม่ถูกทั้งหมด เพราะความเร็วจริงขึ้นอยู่กับ:

  • แพ็กเกจเน็ตจากผู้ให้บริการ (ISP)
  • คุณภาพเราเตอร์
  • ระยะห่าง + ผนัง + สิ่งกีดขวาง
  • จำนวนคนใช้งานพร้อมกัน
  • อุปกรณ์รองรับ Wi-Fi 6 หรือยัง

อย่างไรก็ตาม ในสภาพการใช้งานจริง Wi-Fi 6 มักให้ความเร็ว “สูงกว่าและเสถียรกว่า” Wi-Fi 5 ในสถานการณ์ที่คนใช้หลายอุปกรณ์


9️⃣ 🎮 เกมเมอร์ และสายสตรีมควรรู้อะไรเกี่ยวกับ Latency

สำหรับเกมเมอร์ สิ่งสำคัญไม่ใช่แค่ “ความเร็ว Download/Upload” แต่คือ Latency (Ping)

  • Wi-Fi 6 ถูกออกแบบมาให้จัดการแพ็กเกจข้อมูลได้มีประสิทธิภาพขึ้น ทำให้ Latency ลดลง
  • ถึงอย่างนั้น ถ้าต้องการความนิ่งสุด ๆ การใช้ สาย LAN โดยตรง ยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
  • เหตุผลที่หลายคนเลือกเราเตอร์ Wi-Fi 6 คือสามารถใช้ LAN สำหรับเครื่องหลัก และให้ Wi-Fi แรง/นิ่ง สำหรับเครื่องอื่นในบ้านไปพร้อมกัน

🔟 📶 ระยะสัญญาณ การทะลุทะลวง กำแพง/ห้อง

Wi-Fi 6 ยังใช้คลื่น 2.4GHz + 5GHz (และ 6GHz ในรุ่น Wi-Fi 6E)
หลักการเรื่อง “ระยะทาง vs ความเร็ว” ยังเหมือนเดิม:

  • 2.4GHz → ระยะไกล ทะลุผนังดีกว่า แต่ความเร็วต่ำกว่า
  • 5GHz → ความเร็วสูง แต่ระยะสั้น ทะลุผนังได้น้อยกว่า

Wi-Fi 6 ไม่ได้ทำให้คลื่นทะลุกำแพงได้ดีเวอร์ แต่ช่วยให้ “จัดการทราฟฟิก” ได้ดีขึ้นในสภาพแวดล้อมเดียวกัน


1️⃣1️⃣ 🔒 ความปลอดภัย: WPA2 vs WPA3

Wi-Fi 6 มักมาพร้อมการรองรับมาตรฐานความปลอดภัยใหม่คือ WPA3

  • เข้ารหัสดีขึ้น ป้องกันการดักฟัง/เดารหัสผ่านได้ยากขึ้น
  • ดีต่อการใช้งานในออฟฟิศ หรือบ้านที่มีข้อมูลสำคัญ

ถ้าคุณใช้เราเตอร์เก่าที่รองรับแค่ WPA2 การเปลี่ยนเราเตอร์ Wi-Fi 6 ที่รองรับ WPA3 ถือว่าอัปเกรดอีกด้านหนึ่งที่สำคัญมาก


1️⃣2️⃣ 🔋 การประหยัดพลังงานอุปกรณ์ (Target Wake Time)

Wi-Fi 6 มีฟีเจอร์ Target Wake Time (TWT) ช่วยให้:

  • อุปกรณ์ไม่ต้องเปิดรับสัญญาณตลอดเวลา
  • ประหยัดแบตเตอรี่มือถือ/อุปกรณ์ IoT ในระยะยาว

ฟีเจอร์นี้อาจไม่เห็นชัดในระยะสั้น แต่เหมาะกับอุปกรณ์ที่ต่อไว้ตลอดเวลา เช่น เซ็นเซอร์, IoT, สมาร์ทดีไวซ์ต่าง ๆ


1️⃣3️⃣ 🧩 เทคโนโลยีสำคัญของ Wi-Fi 6 (OFDMA, MU-MIMO, Beamforming)

  • OFDMA – แบ่งช่องสัญญาณให้หลายอุปกรณ์ใช้งานพร้อมกัน
  • MU-MIMO – ส่งข้อมูลไปยังหลายอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน (ทั้ง Downlink/บางรุ่นมี Uplink)
  • Beamforming – ช่วยโฟกัสสัญญาณไปยังอุปกรณ์ ทำให้การรับสัญญาณดีขึ้น

เทคโนโลยีพวกนี้รวมกัน ทำให้ Wi-Fi 6 ไม่ได้ “แค่เร็วขึ้น” แต่ “ฉลาดขึ้น” ในการจัดการผู้ใช้หลายคน


1️⃣4️⃣ 🏠 เหมาะกับบ้าน/สำนักงานแบบไหนบ้าง

Wi-Fi 6 เหมาะกับ:

  • บ้าน/คอนโดที่มีเน็ตตั้งแต่ 200 Mbps ขึ้นไป
  • บ้านที่มีสมาชิกหลายคน ใช้เน็ตพร้อมกันตลอด
  • ออฟฟิศขนาดเล็ก–กลางที่ต้องการเน็ตเสถียรทั้งวัน
  • ร้านกาแฟ/โค-เวิร์กกิ้งสเปซที่เปิด Wi-Fi ให้ลูกค้า

1️⃣5️⃣ 🧱 เมื่อไหร่ควรใช้ Mesh Wi-Fi แทน Router เดี่ยว

ถึงเราเตอร์ Wi-Fi 6 จะดี แต่ถ้า:

  • บ้านคุณ 2–3 ชั้น
  • หรือเป็นทาวน์โฮม/ตึกยาว
  • หรือมีผนังคอนกรีตหนา

บางครั้งการใช้ Mesh Wi-Fi 2–3 จุดจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเราเตอร์ตัวเดียวมาก แม้จะเป็น Wi-Fi 6 เหมือนกันก็ตาม


1️⃣6️⃣ 🛒 แนวทางเลือกซื้อเราเตอร์ Wi-Fi 6 ให้เหมาะกับแพ็กเกจเน็ต

แนวคิดง่าย ๆ:

  • เน็ต 200–500 Mbps → รุ่น AX1500–AX1800
  • เน็ต 500–1000 Mbps → รุ่น AX3000 ขึ้นไป
  • เน็ต 1 Gbps+ + เล่นเกม+สตรีม → AX5400 หรือ Mesh Wi-Fi

ดูเพิ่ม:

  • จำนวนเสา/ย่านความถี่
  • จำนวนพอร์ต LAN
  • มีแอปจัดการผ่านมือถือหรือไม่
  • แบรนด์/รีวิว/ประกันในไทย

1️⃣7️⃣ 💻 ถ้าเครื่องเก่ารองรับแค่ Wi-Fi 5 ยังคุ้มไหมที่จะอัปเกรดเราเตอร์

คำตอบคือ ส่วนใหญ่ “คุ้ม” เพราะ:

  • อุปกรณ์ใหม่ในบ้าน (มือถือ/โน้ตบุ๊กรุ่นใหม่) ได้ประโยชน์เต็ม ๆ
  • อุปกรณ์เก่า Wi-Fi 5 ยังเชื่อมต่อได้อยู่ ไม่ถูกทิ้ง
  • คุณอัปเกรดระบบเครือข่ายให้รองรับอนาคตล่วงหน้า

ถ้าต้องการให้คอมตั้งโต๊ะเก่ารองรับ Wi-Fi 6 → สามารถซื้อ USB Wi-Fi 6 หรือ PCIe Wi-Fi 6 Card มาใส่ทีหลังได้


1️⃣8️⃣ 🔌 กรณีใช้สาย LAN ร่วมกับ Wi-Fi 6 ควรจัดระบบยังไง

  • เครื่องหลักที่ต้องการความนิ่งสูงสุด → ใช้สาย LAN โดยตรง
  • อุปกรณ์รอง/มือถือ/แท็บเล็ต → ใช้ Wi-Fi 6
  • ใช้สวิตช์ (Switch) เสริม ถ้าพอร์ต LAN บนเราเตอร์ไม่พอ

การมี Wi-Fi 6 ไม่ได้ทำให้ “สาย LAN ตกรุ่น” แต่เป็นการทำให้ทั้งระบบโดยรวมมีทางเลือกที่ยืดหยุ่นขึ้น


1️⃣9️⃣ 🛠️ วิธีตั้งค่าเบื้องต้นให้ Wi-Fi 6 ทำงานเต็มประสิทธิภาพ

  • อัปเดต Firmware ของเราเตอร์เป็นเวอร์ชันล่าสุด
  • ใช้การเข้ารหัส WPA2/WPA3
  • ตั้งชื่อเครือข่าย (SSID) ให้แยก 2.4GHz / 5GHz ชัดเจน หรือใช้ Smart Connect ตามความเหมาะสม
  • เลือก Channel ให้ห่างจากเพื่อนบ้าน (หรือใช้ Auto ถ้าเราเตอร์ฉลาดพอ)
  • วางเราเตอร์ให้สูง โล่ง ไม่ถูกปิดกั้น

2️⃣0️⃣ 📊 ตัวอย่างสถานการณ์จริง: บ้าน 1 ชั้น / 2 ชั้น / ทาวน์โฮม / คอนโด

  • คอนโดห้องเดียว – Router Wi-Fi 6 ตัวเดียว วางกลางห้องก็พอ
  • บ้าน 2 ชั้น ขนาดกลาง – Router Wi-Fi 6 ชั้นล่างกลางบ้าน + อาจเพิ่ม Repeater/Access Point
  • ทาวน์โฮมลึก – Mesh Wi-Fi 2–3 Node จะตอบโจทย์มากกว่าเราเตอร์เดี่ยว

2️⃣1️⃣ 🧮 คำนวณคร่าว ๆ ความคุ้มค่าเมื่อเปลี่ยนจาก Wi-Fi 5 เป็น Wi-Fi 6

ลองคิดง่าย ๆ:

  • คุณจ่ายค่าเน็ต 700–1,000 บาท/เดือน แต่เราเตอร์เก่าดึงประสิทธิภาพมาใช้ได้ไม่ถึงครึ่ง
  • การลงทุนเราเตอร์ Wi-Fi 6 สัก 2,000–3,000 บาท ทำให้คุณใช้ความเร็วเน็ตได้ใกล้เคียงแพ็กเกจจริงมากขึ้นในระยะหลายปี

มองระยะยาว 2–3 ปีแล้วมักจะ “คุ้มมากกว่าปล่อยให้เน็ตแรงแต่เราเตอร์ดึงไม่ขึ้น”


2️⃣2️⃣ 🧭 ข้อจำกัดและความเข้าใจผิดที่เจอบ่อย

  • “เปลี่ยนเป็น Wi-Fi 6 แล้วเน็ตต้องแรงขึ้นทันตา”
    → ถ้าแพ็กเกจเน็ตเดิมก็ยังมีเพดานเดิม แต่อย่างน้อยในบ้านจะเสถียรกว่าเดิม
  • “Wi-Fi 6 ทะลุกำแพงดีกว่า”
    → จริง ๆ หลักฟิสิกส์ยังเหมือนเดิม แต่ระบบจัดการทราฟฟิกดีขึ้น
  • “ใช้ Wi-Fi แทน LAN ได้หมด”
    → สำหรับงานเน้นนิ่งสุด ๆ เช่น เซิร์ฟเวอร์/เครื่องตัดต่อใหญ่ LAN ยังสำคัญ

2️⃣3️⃣ 🔄 อนาคตหลัง Wi-Fi 6: Wi-Fi 6E, Wi-Fi 7 คร่าว ๆ

  • Wi-Fi 6E – เพิ่มย่าน 6GHz เข้ามา ลดการชนกันของสัญญาณ
  • Wi-Fi 7 – รุ่นถัดไปที่เน้นความเร็วและประสิทธิภาพสูงกว่านี้อีก

แต่สำหรับผู้ใช้บ้านส่วนใหญ่ในปี 2026:
Wi-Fi 6 ยังเป็นจุด Sweet Spot ระหว่าง “ราคา” กับ “ความคุ้มค่า”


2️⃣4️⃣ 📌 Checklist สั้น ๆ ก่อนตัดสินใจอัปเกรด

  • ✅ แพ็กเกจเน็ตเกิน 200 Mbps
  • ✅ มีคนใช้เน็ตหลายคน/หลายอุปกรณ์
  • ✅ ใช้เราเตอร์แถมจาก ISP รุ่นเก่าหลายปีแล้ว
  • ✅ เริ่มเห็นเน็ตหน่วงเวลาใช้งานพร้อมกัน

ถ้า “ใช่” หลายข้อ → คุณคือกลุ่มที่อัปเกรดเป็น Wi-Fi 6 แล้วรู้สึกได้เลย


2️⃣5️⃣ 🧾 สรุปเชิงธุรกิจ/องค์กร: เลือกอย่างไรให้ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย

สำหรับองค์กร/ออฟฟิศเล็ก–กลาง:

  • เลือก Access Point / Router Wi-Fi 6 ที่รองรับการจัดการหลาย SSID
  • มีฟีเจอร์แยก Guest Network
  • รองรับการจัดการผ่าน Cloud / Controller
  • ลงทุนทีเดียวให้รองรับการใช้งาน 3–5 ปีข้างหน้า

2️⃣6️⃣ 🧱 ข้อควรระวังในการซื้อ (ปลอม/สเปกเวอร์/ฟีเจอร์ตัดทอน)

  • ระวังเราเตอร์ราคาถูกเกินจริงที่เคลมสเปกเวอร์
  • ใช้เฉพาะแบรนด์ที่มีศูนย์ในไทย และมีรีวิวเยอะ
  • อ่านรายละเอียด: บางรุ่น “ตัดฟีเจอร์ขั้นสูง” ออก แม้จะโฆษณาว่าเป็น Wi-Fi 6

2️⃣7️⃣ 🧯 แก้ปัญหาเบื้องต้นเมื่อ Wi-Fi 6 ยังไม่เร็วอย่างที่คิด

  • ทดสอบสปีดด้วยสาย LAN ก่อน → เช็คว่าเป็นปัญหาจากเน็ตหรือเราเตอร์
  • เปลี่ยน Channel, ย้ายตำแหน่งวางเราเตอร์
  • อัปเดต Firmware
  • แยก 2.4GHz / 5GHz ให้ชัดเจน
  • ตรวจว่ามีอุปกรณ์ “โหลดเน็ตหนัก ๆ” อยู่เบื้องหลังหรือไม่ (เช่น Backup/Download)

2️⃣8️⃣ 🌐 มุมมองด้าน SEO / Content สำหรับเว็บไอที (สำหรับ ComSiam โดยเฉพาะ)

หัวข้อ “Wi-Fi 6 vs Wi-Fi 5” นี้เป็น Pillar Content ชั้นดีของหมวด Networking / Router บนเว็บ ComSiam สามารถแตกเป็นบทความลูกได้ เช่น:

  • วิธีเลือกเราเตอร์ Wi-Fi 6 สำหรับบ้าน 2 ชั้น
  • แนะนำ 5 รุ่น Wi-Fi 6 ราคาไม่เกิน 2,000 บาท
  • วิธีตั้งค่าเราเตอร์ Wi-Fi 6 ให้ Gaming ลื่นที่สุด

บทความนี้ควร Internal Link เชื่อมไปบทความเหล่านี้ในอนาคต เพื่อสร้าง Content Cluster ด้าน Wi-Fi/Router


2️⃣9️⃣ 📚 แหล่งความรู้เพิ่มเติมและคำศัพท์เทคนิคที่ควรรู้

คำศัพท์ที่ควรรู้:

  • SSID – ชื่อเครือข่าย Wi-Fi
  • Bandwidth – แบนด์วิดท์/ปริมาณข้อมูลที่ส่งได้
  • Latency – ระยะเวลาในการตอบสนอง (Ping)
  • Throughput – ปริมาณข้อมูลที่ส่งได้จริงในเวลาหนึ่ง

3️⃣0️⃣ 🧾 สรุปปิดท้ายแบบเข้าใจใน 1 นาที

  • Wi-Fi 6 ไม่ได้แค่ “เร็วขึ้น” แต่ จัดการหลายอุปกรณ์ได้ดีกว่า
  • ถ้าบ้านเน็ตแรง + อุปกรณ์เยอะ → Wi-Fi 6 แทบจะกลายเป็น “มาตรฐานใหม่”
  • ถ้าต้องซื้อเราเตอร์ใหม่ในปี 2026 → เลือก Wi-Fi 6 คือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะ 3–5 ปี

3️⃣1️⃣ 🧠 คำแนะนำเพิ่มเติมจากผู้เชี่ยวชาญ (Expert Tips)

  • อย่าดูแต่ “ตัวเลขความเร็วสูงสุด” ให้ดู ชิป, RAM, ฟีเจอร์, รีวิวจริง ร่วมด้วย
  • ถ้าเน็ตคุณยังต่ำกว่า 200 Mbps แต่มีแผนจะอัปใน 1–2 ปีข้างหน้า → ซื้อ Wi-Fi 6 เลย ประหยัดการเปลี่ยนหลายรอบ
  • สำหรับสายทำงาน/ฟรีแลนซ์ เน็ตสะดวกและเสถียร คือ “ต้นทุนพื้นฐาน” ที่ไม่ควรมองข้าม

3️⃣2️⃣ 🧭 คู่มือเลือกตามสถานการณ์จริง (Scenario Guide)

  • บ้านเล็ก / คอนโด
    → Wi-Fi 6 Router 1 ตัวระดับ AX1500–AX1800 พอ
  • บ้าน 2 ชั้น เน็ต 1 Gbps
    → Wi-Fi 6 AX3000 + อาจมี Mesh / AP เพิ่ม
  • ออฟฟิศเล็ก 5–15 คน
    → Access Point Wi-Fi 6 1–2 ตัว + Switch + วางระบบ VLAN ตามต้องการ
  • หอพัก / ร้านกาแฟ
    → เลือกอุปกรณ์ที่รองรับการจำกัดความเร็วต่อ User / แยก Guest Network

3️⃣3️⃣ 💬 คำถามชวนคิดและชวนคอมเมนต์

ตอนนี้คุณใช้เราเตอร์รุ่นอะไรอยู่?

  • ใช้ของแถมจากเน็ตบ้าน
  • หรือซื้อเองเป็น Wi-Fi 5 / Wi-Fi 6 ไปแล้ว?

และถ้าให้เลือกอัปเกรดวันนี้ คุณอยากได้อะไรที่สุดในเราเตอร์ใหม่:
ความเร็ว, ความนิ่ง, สัญญาณครอบคลุม, หรือฟีเจอร์จัดการผู้ใช้งาน?

ลองพิมพ์สถานการณ์ + งบประมาณในใจไว้ในคอมเมนต์สิครับ
เดี๋ยวผมช่วยออกแบบ “เซ็ตเราเตอร์+การวางจุดติดตั้ง” แบบเฉพาะเคสให้ได้เลย 🔧📶